ประเภทและชนิดของช็อกโกแลต
ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ได้แก่
– ช็อกโกแลตขาว (White Chocolate)
– ช็อกโกแลตนม (Milk Chocolate)
– ช็อกโกแลตธรรมดา (Dark Chocolate or Plain Chocolate)
ปริมาณการใส่โกโก้แมสที่ต่างกันทำให้ได้รสที่ต่างกัน แบ่งย่อยได้ 3 ชนิดคือ
– แบบหวาน (sweet)
– แบบกึ่งหวาน (semi sweet)
– แบบขม (bitter)
ประเภทและชนิดของช็อกโกแลต
ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ได้แก่
– ช็อกโกแลตขาว (White Chocolate)
– ช็อกโกแลตนม (Milk Chocolate)
– ช็อกโกแลตธรรมดา (Dark Chocolate or Plain Chocolate)
ปริมาณการใส่โกโก้แมสที่ต่างกันทำให้ได้รสที่ต่างกัน แบ่งย่อยได้ 3 ชนิดคือ
– แบบหวาน (sweet)
– แบบกึ่งหวาน (semi sweet)
– แบบขม (bitter)
ช็อกโกแลตดำ
ช็อกโกแลตดำ (dark chocolate)
ส่วนผสมหลักในช็อกโกแลตซึ่งได้แก่โกโก้นั้นมีสารฟลาโวนอยด์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและมีสรรพคุณกระตุ้นการหลั่งเอนดอร์ฟินทำให้ผู้รับประทานมีความสุขช็อกโกแลตดำจะต้องมีโกโก้แมสเป็นส่วนประกอบไม่ต่ำกว่าร้อยละ 35 (สหรัฐอเมริกา แค่ร้อยละ 15 )ทั้งนี้ จากการสำรวจของทีมงานฉลาดซื้อพบว่า ช็อกโกแลตนมธรรมดา ที่ไม่ได้เรียกตัวเองว่าช็อกโกแลตดำนั้น บางยี่ห้อมีปริมาณโกโก้อยู่ถึงร้อยละ 38 ส่วนปริมาณน้ำตาล มีตั้งแต่ร้อยละ 23-65เกือบ ร้อยละ 40 ของผลผลิตโกโก้มาจากประเทศไอวอรี โคสต์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่ที่สุดของโลก รองลงมาได้แก่ประเทศ กานา และอินโดนีเซียกลางเดือนที่ผ่านมา ราคาโกโก้ในตลาดนิว ยอร์กอยู่ที่ตันละ 3,000 เหรียญ
นัก วิเคราะห์บอกว่า ในวันนี้ช็อกโกแลต 1 แท่ง ราคา 100 บาท ในนั้นมีค่าต้นทุนโกโก้เพียง 6-8 บาทเท่านั้น ที่เหลือเป็นราคาต้นทุนของส่วนผสมอื่นๆ เช่น นม น้ำตาล แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ ค่าใช้จ่ายในการผลิต ค่าจัดจำหน่าย ค่าโฆษณาและกำไรของผู้ผลิต จาก การวิจัยที่ทำกับผู้หญิงสวีเดน อายุ ระหว่าง 48-83 ปี กว่า 30,000 คน ระหว่างปีค.ศ.1998-2006 พบว่าผู้ที่รับประทานช็อกโกแลตในปริมาณเล็กน้อยเป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจล้มเหลวน้อยกว่าคนทั่วไป โดยช็อกโกแลตที่พวกเธอรับประทานมีส่วนผสมของโกโก้ในปริมาณเข้มข้นนักวิจัยชาวสเปนแจ้งว่า การกินดาร์กช็อกโกแลตเป็นผลดีต่อสุขภาพ จนอาจกลายมาเป็นยารักษาโรคตับแข็งอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตได้ เพราะเมื่อดูจากผลการทดลองโดยให้ผู้ป่วยโรคตับแข็งระยะสุดท้ายรับประทาน “ดาร์กช็อกโกแลต” เป็นประจำหลังอาหารก็พบว่า หลอดเลือดที่เสื่อมสภาพในเซลล์ตับถูกฟื้นฟูและขยายตัวขึ้นทั้งนี้เป็นเพราะในผลโกโก้ที่นำมาผลิตช็อกโกแลตนั้น มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด จึงสามารถช่วยทำความสะอาดและขยายหลอดเลือดนั่นเอง
ช็อกโกแลตคูแวร์ตู (Couverture)
ก็เป็นช็อกโกแลตประเภทเดียวกัน แต่มีความมันแวววาวสวยงาม จึงนิยมใช้สำหรับการทำช็อกโกแลตที่ทำด้วยมือ เคลือบลูกกวาดและใช้สำหรับตกแต่งขนมต่างๆ เพราะจะให้ความรู้สึกที่ดีสวยงามน่ากิน
ช็อกโกแลตนม
ช็อกโกแลตนม (milk chocolate) คือช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือนมข้นหวาน รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดว่าหากจะเรียกว่าช็อกโกแลตนม ต้องมีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 10% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 25% ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ (cocoa butter) นม และยังเพิ่มความหวานและรสชาติลงไปด้วย ช็อกโกแลตนมนี้ใช้สำหรับแต่งหน้าขนมได้เป็นอย่างดี ช็อกโกแลตนมที่ทำในประเทศสหรัฐฯ ต้องประกอบด้วยน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 10% และนมที่ไม่ได้เอามันเนยออก 12%
งานวิจัยเอาใจคนรัก “ช็อกโกแลต” ออกมาอีกแล้ว โดยผลงานล่าสุดเป็นของนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐ ออกมาแจ้งข่าวดีว่าการกินช็อกโกแลตนมจะช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะในช็อกโกแลตเต็มไปด้วยสารต่างๆมากมายที่ทำหน้าที่เหมือนดัวกระตุ้น อาทิ สารทิโอโบรมีน (Theobromine) สารฟีนีไทลามีน (phenethylamine ) และกาเฟอีน (caffeine) ที่สำคัญสารเหล่านี้เคยมีการศึกษาและสรุปออกมาว่าช่วยเพิ่มความว่องไวและความกระตือรือล้นให้แก่ผู้ที่กินเข้าไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราค้นพบได้จากผู้ที่กินช็อกโกแลต พวกเขาจะมีปฏิกริยาตอบสนองที่ตื่นตัวมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความสดชื่นให้สภาพจิตใจอีกด้วย
ทั้งนี้ มีคำถามต่ออีกว่าช็อกโกแลตแบบไหนมีผลต่อสมองอย่างไร โดยเขาและทีมงานได้หาอาสาสมัครมาทำงานที่น่าอิจฉา (มาก มาก) นั่นคือกิน ให้กินช็อกโกแลตนม (milk chocolate) 85 กรัม กินช็อคโกแลตดำ (dark chocolate) 85 กรัม กินถั่วเครอบ (carob) 85 กรัมเช่นกัน และสุดท้ายไม่กินอะไรเลยเป็นสภาวะควบคุมหลังจากผ่านไป 15 นาที อันเป็นช่วงการย่อย อาสาสมัครก็จะได้รับการทดสอบในรูปแบบต่างๆโดยประมวลผลผ่านระบบที่ออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อวัดการสั่งงานของสมอง ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบความจำ การทดสอบความสนใจใส่ใจที่เพิ่มขึ้น ปฏิกริยาตอบสนองและการแก้ปัญหาผู้ที่กินช็อกโกแลตนมมีผลการตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของความจำและการตอบโต้ อีกทั้งผู้ที่กินช็อกโกแลตนมและดาร์กช็อกโกแลตต่างก็เพิ่มระดับการควบคุมตัวเองและปฏิกริยาตอบสนองได้มากพอๆกัน
งานวิจัยก่อนหน้านี้ที่ชี้ให้เห็นว่าสารอาหารบางชนิดไปกระตุ้นการปล่อยกลูโคสและเพิ่มการหมุนเวียนโลหิต ซึ่งช่วยเสริมการทำงานของส่วนความจำ ซึ่ง ดร.ไบรอัน เราเดนบุช ผู้ทำการวิจัยครั้งล่าสุดก็กล่าวเช่นกันว่า ในช็อกโกแลตนี่หละที่มีสารอาหารประเภทนั้น หากรับประทานช็อกโกแลตเข้าไปก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สมองส่วนความจำทำงานได้ดีขึ้น
ช็อกโกแลตลิเคียวร์
เป็นผลผลิตจากเมล็ดโกโก้นำมาบดละเอียด แล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำ น้ำช็อกโกแลตนี้สามารถทำให้เย็นและทำให้แข็งตัวโดยใส่พิมพ์ไว้ แต่ช็อกโกแลตที่ได้เป็นชนิดที่ไม่หวาน น้ำช็อกโกแลตนี้จะมีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ประมาณ 53%
ขอบคุณข้อมูลและภาพจากhttps://sites.google.com/site/nannyunyamanee789/home/2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น